หลังจากที่เคยยิงกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์กับไอน์ทรัค แฟรงเฟิร์ต ในศึกบุนเดสลีกาเยอรมันอย่างเป็นกอบเป็นกำในช่วงซีซั่น 2017-2019 โดยเฉพาะในซีซั่น 2018/2019 ที่ยิงไปถึง 27 ประตูจากการลงสนาม 48 นัด ทำให้เมื่อสิ้นสุดซีซั่นดังกล่าว ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด จึงไม่รอช้า จัดการสู่ขอและสอยตัวลูก้า โยวิช ดาวยิงทีมชาติเซอร์เบียของแฟรงเฟิร์ตมาสู่ทีมทันที ด้วยคาดหวังจะให้เป็นตัวตายตัวแทนของคาริม เบนเซม่า ดาวยิงตัวหลักทีมชาติฝรั่งเศสประจำทีมที่อายุอานามเริ่มเพิ่มมากขึ้นทุกที
ทว่าพอย้ายมาอยู่กับราชันชุดขาว เรอัล มาดริด แล้ว ฟอร์มของตัวโยวิชกลับไม่เปรี้ยงปร้างเท่าที่บอร์ดบริหาร รวมถึงเหล่าแฟนบอลของราชันชุดขาวคาดหวังไว้ ทั้งปัญหาการปรับตัวเข้ากับทีมไม่ได้ ฟอร์มตกลงไป มีอาการบาดเจ็บรบกวนอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดคือการที่เจ้าตัวติดโควิด-19 จนต้องพักรักษาตัว ไม่ได้ลงสนามให้ราชันชุดขาวมายาวๆ แล้ว ซึ่งโดยรวมทั้งหมดนั้น ในซีซั่น 2019/2020 นี้ โยวิชได้ลงสนามให้กับราชันชุดขาวไปแค่ 27 นัด และยิงไปได้แค่ 2 ประตูเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้กุนซือหัวใสอย่างซีเนอดีน ซีดาน จึงเล็งที่จะโละโยวิชออกไปจากทีม แม้จะไม่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการขนาดปักป้ายขาย แต่ก็พร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอจากทีมอื่นๆ แบบไม่มีกั๊ก เรียกว่าขายได้ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ได้ก็อาจจะลองเก็บไว้ให้แก้ตัวอีกสักซีซั่นก็ไม่เสียหาย ขณะที่สถานการณ์ของตัวตายตัวแทนของเบนเซม่านั้น ซีดานพุ่งเป้าไปที่ตัวของโรเมลู ลูกากู ดาวยิงฟอร์มฮอตของอินเตอร์ มิลาน แทน
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีข่าวกระเซ็นออกมาว่า เป็นปีศาจแดงดำ เอซี มิลาน ยักษ์หลับของกัลโช่ เซเรียอา ที่ทำการยื่นข้อเสนอขอซื้อตัวโยวิชเข้ามาแล้ว โดยทางสื่อคาดว่าค่าตัวของโยวิชน่าจะอยู่ที่ประมาณ 40 ล้านยูโร ซึ่งถือว่าเรอัล มาดริด ยอมขาดทุน เนื่องจากพวกเขาสอยโยวิชมาจากไอน์ทรัค แฟรงเฟิร์ต ด้วยราคาค่าตัวถึง 60 ล้านยูโรเลยทีเดียว
อนึ่งนั้น ปัจจุบันเอซี มิลาน ถือว่าอยู่ในช่วงยุคมืด โดยพวกเขาไม่ได้เฉียดเข้าใกล้กับการลุ้นแชมป์ในประเทศมาเนิ่นนานแล้ว ประกอบกับสถานการณ์ทางการเงินที่ไม่สู้ดีอย่างต่อเนื่อง ก็ทำให้พวกเขาไม่สามารถปรับปรุงทีมอะไรได้มากมายนัก โดยผลงานในซีซั่นล่าสุดนี้ พวกเขาจบซีซั่นด้วยอันดับที่ 6 ถูกเจ้าม้าลาย ยูเวนตุส ทิ้งห่างด้วยระยะถึง 17 แต้มด้วยกัน